สวัสดีครับ น้อง ๆ นปร. ทุกท่าน ผมชื่อ นายณัฐวุฒิ เกรียงไกรเลิศ นปร. รุ่นที่ 11 ชื่อเล่น ชื่อ คิม ครับ ปัจจุบันผมมาทำงานอยู่ในระบบราชการจริง ๆ แล้ว
เนื่องจากผมเชื่อว่ายุคนี้การถ่ายทอดประสบการณ์สามารถทำได้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ผมขอถือโอกาสนี้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับ น้อง นปร. ทุกท่านได้รับทราบไปพร้อม ๆ กัน ผ่านเว็บไซต์ส่วนตัวของผม
ซึ่งจะทำให้ น้อง นปร.ทุกท่านนั้น สามารถเลือกที่จะอ่าน หรือ ไม่อ่าน ก็ได้ ซึ่งเป็นการดีกว่าที่จะต้องถูกบังคับให้มานั่งฟังรุ่นพี่ นปร. คนนึง ในช่วงเวลาที่ไม่อยากฟังหรือไม่สะดวกจะฟัง
ตัวผมเองเป็น นปร. ที่มีประสบการณ์ในภาคเอกชนมาก่อน 5 ปี โดยตำแหน่งสุดท้าย ดำรงตำแหน่งผู้จัดการโครงการพัฒนาซอฟต์แวร์บนโทรศัพท์มือถือ หรือที่เรียกกันว่า Project Manager เมื่ออายุ 28 ปี ด้วยเงินเดือน 55,000 บาท หลังจากนั้นจึงตัดสินใจมารับราชการที่โครงการ นปร. เพื่อหวังว่าจะเปลี่ยนแปลงระบบราชการให้ดีขึ้นได้
ก่อนมารับราชการนั้น ผมก็คิดว่างานราชการเป็นงานที่ง่ายกว่าเอกชนมาก แต่เมื่อมาทำงานในระบบราชการแล้ว ก็พบว่างานราชการมีความซับซ้อน เต็มไปด้วยขั้นตอนและกฎระเบียบจนน่าอึดอัดใจ รวมถึงสภาพแวดล้อมไม่ได้สนับสนุนให้เกิดการทำงานเหมือนที่บริษัทเอกชนจัดหาให้ ฉะนั้น ผมจึงกล้าพูดได้เต็มปากว่างานราชการยากกว่าที่คิด (เรื่องนี้ผมเคยเขียนบทความเอาไว้แล้ว)
การถ่ายทอดประสบการณ์ครั้งนี้ ผมขออนุญาตเน้นเรื่องการฝึกทั้งหมด 4 สถานีฝึก ได้แก่ การฝึกปฏิบัติราชการส่วนภูมิภาค ส่วนกลาง ในต่างประเทศ และในภาคเอกชน ว่าแต่ละที่ผมได้เรียนรู้อะไรบ้าง ทั้งนี้ น้อง นปร. อาจจะเห็นตรง หรือเห็นต่างกับผมก็ได้ครับ
การฝึกปฏิบัติราชการส่วนภูมิภาค
ผมได้ไปฝึกกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของรุ่นพี่ท่านหนึ่งว่า การฝึกปฏิบัติราชการส่วนภูมิภาคมีความสนุกที่สุดแล้ว เพราะเพื่อนร่วมงานที่ส่วนภูมิภาคนั้นมีความเป็นกันเอง จริงใจ ช่วยเหลือเราเหมือนเราเป็นแขกของบ้านเขา
ข้อดี คือ เราจะได้ฝึกการวางตัวกับผู้ใหญ่ ได้เรียนรู้วิธีคิดของผู้ว่าราชการจังหวัด
ข้อควรระวัง คือ เราจะได้เรียนรู้ว่าอำนาจมีความหอมหวานขนาดไหน ทำให้เราหลงระเริงจนเสียคนได้มากน้อยเพียงใด
คำแนะนำ คือ จงมีสติอยู่กับปัจจุบัน อย่าคิดว่าเรื่องของอำนาจจะอยู่ได้นาน เพราะอำนาจนั้น เดี๋ยวมาก็เดี๋ยวไป แต่ตัวเราเองต่างหากล่ะที่ยั่งยืน จงเป็นตัวเราในเวอร์ชันที่ดีที่สุดเหมือนตอนก่อนที่จะไปฝึกปฏิบัติราชการกับผู้ว่าราชการจังหวัด
การฝึกปฏิบัติราชการส่วนกลาง
ผมได้ไปฝึกกับเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งผมมองว่าเป็นครูฝึกสอนที่ดีที่สุดแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับทุกสถานีที่ผมได้รับโอกาสในการฝึก เพราะท่านเลขาธิการฯ เป็นคนที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผมสนใจในข้อกฎหมายได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ผมอยากจะสนับสนุนให้ นปร. เลือกมาฝึกที่สถานีนี้กับเลขาธิการฯ ท่านนี้
ข้อดี คือ เราจะได้ฝึกการวางตัวกับคู่แข่ง ทั้งนี้ คุณอาจจะมองว่าเพื่อนร่วมงานคุณไม่ใช่คู่แข่งก็ได้ แต่เพื่อนร่วมงานคุณหลายคนจะมองคุณเป็นคู่แข่ง
ข้อควรระวัง คือ ข้าราชการส่วนกลางมีความสามารถมากจนกระทั่งคุณอาจจะคิดไม่ถึงก็ได้ ซึ่งแตกต่างจากข้าราชการส่วนภูมิภาคเป็นอย่างยิ่ง
คำแนะนำ คือ วางตัวให้อ่อนน้อมถ่อมตน เรียนรู้จากข้าราชการส่วนกลางให้มาก แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน รวมถึงหากตัดสินใจจะไปรับราชการที่หน่วยงานดังกล่าวนี้ ให้มองหาทางหนีทีไล่ให้ดี
การฝึกปฏิบัติราชการในต่างประเทศ
ผมได้ไปฝึกกับเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ผมต้องบอกก่อนว่าการไปฝึกการปฏิบัติราชการในต่างประเทศนั้น ขึ้นอยู่กับประเทศที่ได้ไปฝึก สำหรับผมกับเพื่อนในรุ่นนั้น ได้มีโอกาสทำทุกอย่าง ตามที่ได้รับมอบหมาย แต่เราต้องเข้าใจเหตุผลประการหนึ่งว่างานที่สถานทูตนั้นไม่ใช่งานวิชาการนะครับ หลายคนจึงไม่เข้าใจในเหตุผล หรือหน้าที่ หรือ บทบาทของงานสถานทูต จึงรู้สึกไม่อินกับงานที่ทำเท่าไหร่แต่บางคนก็มีความอินกับเนื้องานที่ทำซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องดีแล้วครับ
ข้อดี คือ เราจะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตกับเพื่อนร่วมงานที่ไปด้วยรู้จักการถอยคนละก้าว รู้จักการปรับตัวเข้าหากัน รู้จักคนในพื้นที่ว่ามีนิสัยใจคอแตกต่างจากคนไทยอย่างไร หากเรานำข้อดีของคนประเทศเขามาปรับปรุงกับตัวเราได้ก็จะเป็นเรื่องดีมาก
ข้อควรระวัง คือ ข้าราชการที่สถานทูตอาจจะไม่เข้าใจบทบาทของเราชัดเจน ฉะนั้นให้เราทำงานให้เต็มที่ตามที่เขามอบหมายมา อย่าเลือกงาน
คำแนะนำ คือ ให้เรียนรู้วิธีการปรับตัวกับเพื่อน ให้ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด สนุกกับงานที่ได้รับมอบหมาย บริหารจัดการเรื่องเงินให้ดี
การฝึกปฏิบัติราชการในภาคเอกชน
ผมได้ไปฝึกกับประธานกรรมการ ธนาคารเกียรตินาคิน ผมคิดว่าดวงคงจะได้พบกับคุณบรรยง พงษ์พานิช ถ้าจะให้เล่าแล้วก็คงจะยาวมาก แต่โดยสรุปสั้น ๆ ก็ คือ ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ผมได้มาฝึกปฏิบัติราชการที่ธนาคารแห่งนี้ ซึ่งผมไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่เพราะว่าอาคารของธนาคารแห่งนี้อยู่ข้าง ๆ กับตึกอโศกทาวเวอร์ซึ่งเป็นที่ทำงานเก่าของผมก่อนที่จะลาออกมารับราชการ
คุณบรรยง พงษ์พานิช เป็นคนที่ฝีปากกล้าไม่กลัวใคร แล้วด่าระบบราชการให้ผมฟังจนผมกลับมีไฟในการทำงานอีกครั้งหนึ่ง
ผมอยากให้รุ่นน้องได้มีโอกาสมาฝึกงานกับคุณบรรยง พงษ์พานิช ผมจึงตั้งใจฝึกปฏิบัติราชการเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม คุณบรรยง พงษ์พานิช อยู่ในช่วงที่ยังไม่พร้อมจะรับ นปร. ไปฝึกปฏิบัติราชการในช่วงนี้ คาดว่าคงจะเปิดให้ นปร. รุ่นหลัง ๆ ได้ไปฝึกอีกครั้ง
ขอควรระวัง คือ การไปฝึกปฏิบัติราชการภาคเอกชนนั้น คนภาคเอกชนมีความสับสนมาก ว่าเราในฐานะข้าราชการไปอยู่ในที่ทำงานของภาคเอกชนทำไม จะไปจับผิดเรื่องภาษีหรือไม่ ฉะนั้น ส่วนใหญ่จึงไม่สนใจเรา เหมือนคนที่ไร้ตัวตน (เหมือนเพลงของพี่เจมส์ เรืองศักดิ์ เกิดทันมั้ยครับ)
คำแนะนำ คือ หาโอกาสเรียนรู้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่าคิดมากเรื่องของการที่ไม่เป็นคนสำคัญ เพราะคำว่าอยากเป็นคนสำคัญนั้น ทำให้หลายคนต้องทุกข์ใจ ทั้งในการฝึกปฏิบัติราชการภาคเอกชน และการทำงานในระบบราชการ
ตัวผมเองมีเรื่องที่อยากจะเล่ามากกว่านี้ แต่จะให้เล่าในบทความนี้บทความเดียวคงจะเป็นไปไม่ได้ ผมขออนุญาตทิ้งช่องทางติดต่อไว้ด้านล่างนี้ แล้วหวังเป็นอย่างยิ่งว่า น้อง นปร. ที่ยังมีความหวังในการเปลี่ยนแปลงระบบราชการให้ดีขึ้น จะแอด LINE หรือติดต่อมาคุยกับผม เพื่อให้ได้คำตอบที่สงสัย รวมทั้งเป้าหมายที่แท้จริงของการรับราชการก็ได้นะ แล้วคุยกันนะครับ
นายณัฐวุฒิ เกรียงไกรเลิศ (คิม นปร.11)
LINE: 0818506100