เพราะทุกเรื่องราวในชีวิตไม่มีคำว่าบังเอิญ

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผมมีความเชื่อที่ว่าเหตุการณ์ในชีวิตของเราไม่มีคำว่าบังเอิญ ผมขอถือโอกาสนี้อธิบายขยายความถึงรายละเอียดของความเชื่อนี้ พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ รวมถึงที่มาของความเชื่อนี้ว่าผมได้รับมาอย่างไร

ไม่มีคำว่าบังเอิญในชีวิต

ผมเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างในชีวิตของคนเรานั้นไม่มีคำว่าบังเอิญ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังเพียงแต่ต้องใช้เวลาในการอธิบาย

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังเพียงแต่ต้องใช้เวลาในการอธิบาย

เพราะเมื่อเวลาผ่านพ้นไป เราก็จะเข้าใจว่าเหตุการณ์นั้น ๆ เกิดขึ้นเพราะอะไร และสอนอะไรให้กับเราเพื่อให้เราพัฒนาตนเองให้ดีกว่าเดิม ดังนั้นในอนาคตเมื่อเราพบเจอเหตุการณ์คล้ายคลึงกันอีก เราก็สามารถรับมือเหตุการณ์ดังกล่าวได้ดีกว่าเดิม ไม่เหมือนตอนที่เราได้พบเจอเหตุการณ์ดังกล่าวในครั้งแรก

เหตุการณ์ที่ไม่เคยบังเอิญ

หลังจากนี้ผมอยากจะถือโอกาสยกตัวอย่างเหตุการณ์พร้อมเหตุผลประกอบครับ โดยจะยกเหตุการณ์เริ่มจากอดีตถึงปัจจุบัน

เหตุการณ์ที่ 1 : โดนการเมืองในที่ทำงานจนโดนขอให้ลาออกจากงาน

เรื่องราวของเหตุการณ์ :

ผมเคยทำงานบริษัทเอกชนในฐานะผู้จัดการครั้งแรกตอนอายุ 27 (แต่เป็นคนละบริษัทกับที่ผมเอาไว้ในประวัติการทำงาน)

ผมตื่นไปทำงานแต่เช้าทุกวันตั้งแต่ออฟฟิศยังไม่เปิด กลับบ้านเกือบจะคนสุดท้าย

แต่เมื่อทำงานไปได้ 2 สัปดาห์ก็มีเรื่องราวแปลก ๆ

ในวันศุกร์ช่วงเย็น ผมโดนเตะออกจากกลุ่ม LINE ของบริษัท ทิ้งให้ผมเป็นกังวลในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

วันจันทร์ผมไปออฟฟิศเวลาเดิม เวลาที่ยังไม่มีใครมาถึงออฟฟิศ แต่วันนี้กลับมีคนมาถึงแล้ว

ผมยืนสแกนใบหน้าอยู่นานก็เข้าสำนักงานไม่ได้ ซักพักเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งคนที่ผมคาดเดาว่าผมอาจจะไปขัดผลประโยชน์โดยไม่ได้ตั้งใจ ก็ออกมาเปิดประตูพร้อมกับแจ้งว่า

เจ้านายจะคุยด้วย

ผลคือ เจ้านายโมโหพร้อมคำอธิบายที่ไร้เหตุผล พร้อมขอให้ผมลาออกจากบริษัท

ณ วินาทีนั้นผมรู้ตัวแล้วว่า ผมโดนการเมืองในที่ทำงานเล่นงานซะแล้ว

แล้วผมก็กลายเป็นคนที่ตกงานตอนอายุ 27 ปี

ผลที่เกิดขึ้น :

นี่คือเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่เปลี่ยนผมเป็นคนใหม่ รวมถึงเปลี่ยนแนวคิดในหลาย ๆ เรื่อง ดังนี้

• ผมเลิกทำตัว “ห่าม” และเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรนั้น ๆ ว่าสามารถยอมรับการแสดงความเห็นได้ในระดับใด
• ได้เรียนรู้ว่า “เพื่อน” ที่ดีจะมาอยู่และให้กำลังใจในยามที่เราลำบาก
• เมื่อมีเงินเดือนสูงขึ้น งานภาคเอกชนจะมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในงานมาก
• ผมไม่ใช่ตัวคนเดียว แต่เป็นลูกคนโต และเป็นลูกที่มีพ่อแม่สูงอายุ เมื่อผมตกงานแล้ว พ่อแม่จะลำบาก การตัดสินใจเลือกอาชีพ จึงต้องคำนึงถึงจุดนี้ด้วย

เหตุการณ์ที่ 2 : ได้ฟังบรรยายโดย สุรชัย พุฒิกุลางกูร illusion

คุณสุรชัย พุฒิกุลางกูร ผู้ก่อตั้ง Illusion CGI Studio ให้ความรู้เกี่ยวกับเบื้องหลังวิธีคิดและวิธีทำงานที่ทำให้บริษัท อิลลูชั่น จำกัด ประสบความสำเร็จ และกวาดรางวัลมาแล้วกว่า 1,000 รางวัลจากทั่วโลก พร้อมร่วมถอดรหัสลับที่ทำให้ อิลลูชั่น ครองตำแหน่งโปรดักชั่นภาพนิ่งแห่งแรกและแห่งเดียวของไทย ซึ่งได้รับรางวัลกรังด์ปรีซ์ประเภทสิ่งพิมพ์จากงานประกวด “คานส์ ไลอ้อนส์” (Cannes Lions) จากการสร้างสรรค์ภาพด้วยวิธีใหม่ที่เรียกว่า “ซีจีไอ” (Computer Generated Imagery-CGI)

จากงาน Creative Space Workshop 2015 หนึ่งในกิจกรรม CU 2015

การบรรยายดังกล่าว มีชื่อว่า “ถอดรหัสลับภาพลวงตา” ในวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 13:00 – 17:00 น. ณ ห้องแกลเลอรี่ 2 TCDC

เรื่องราวของเหตุการณ์ :

ผมได้ฟังบรรยายในงานดังกล่าว ตอนแรกผมคิดว่าเป็น Workshop สอนการทำกราฟฟิคดีไซน์ แต่พบว่าสิ่งที่ผมได้เรียนรู้กลับยิ่งใหญ่ และเปลี่ยนชีวิตของผม นั่นคือ หลักการที่เชื่อว่าไม่มีคำว่าบังเอิญ และหลักการดังกล่าวทำให้เกิดบทความนี้ขึ้นมา

ผลที่เกิดขึ้น :

นี่คือเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่ทำให้ผมเริ่มเชื่อในหลักการดังกล่าว และทำการสังเกตเรื่องราวในชีวิตเสมอมา ดังที่จะได้เห็นเรื่องราวอื่น ๆ หลังจากนี้

เหตุการณ์ที่ 3 : พบผู้ว่าราชการจังหวัดสายธรรมะ

เรื่องราวของเหตุการณ์ :

ผมเลือกที่จะไปจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ ปรากฎว่าได้รับโอกาสไปฝึกงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีหลักธรรมประจำใจ ชอบเข้าวัดทำบุญ

แต่เดิมผมไม่ค่อยชอบการเข้าวัดทำบุญ แม้ว่าจะตัวเองจะเคยผ่านการบวชมาแล้วดังนั้นการติดตามผู้ว่าฯ แรก ๆ ผมไม่ค่อยถูกจริตกับเรื่องหลักธรรมที่ท่านสอนประชาชน รวมถึงการตื่นเช้าไปทำบุญ แต่เมื่อฝืนไม่ไหวก็ต้องตามท่านไปด้วย

พอฟังได้ซักพัก จึงเริ่มศึกษาเรื่องหลักธรรม และฝึกฝนการเจริญสติมาโดยตลอด

ผลที่เกิดขึ้น :

หลังจากนั้นผมเริ่มสนใจในหลักธรรมโดยสามารถอธิบายเพิ่มเติมได้ว่า

สนใจหลักธรรม และก็พบเพื่อนที่ยินดีที่จะแบ่งปันหนังสือธรรมะมาให้

เหตุการณ์ที่ 4 : ได้รับโอกาสไปฝึกงานกับเลขาธิการฯ ที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย

เรื่องราวของเหตุการณ์ :

ผมเลือกที่จะไปหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญของประเทศไทยหน่วยงานหน่วยหนึ่ง เพราะทำหน้าที่ขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า

แต่เดิมการมาฝึกงานที่หน่วยงานดังกล่าว ผมไม่ได้คาดหวังในความรู้ด้านกฎหมายเลย เเม้ว่าใจมีความคิดสนใจอยากรู้เรื่องกฎหมายอยู่บ้าง

แค่เมื่อเริ่มการฝึก ก็พบว่าท่านเลขาธิการฯ มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และได้สอนการประเภท หลักการของกฎหมายสำคัญต่าง ๆ ด้วยวิธีการที่สอน ทำให้เนื้อหากฎหมายที่ดูจะเข้าใจยาก กลับเข้าใจง่ายขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้แล้ว การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และติดดินของท่าน เป็นเรื่องที่ควรเรียนรู้เพื่อนำไปใช้เป็นแบบอย่าง

ผลที่เกิดขึ้น :

นอกจากผมจะสนใจเรื่องของกฎหมายมากขึ้นแล้ว ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่า

นี่คือครูฝึกสอน (Mentor) ที่สร้างแรงบันดาลใจในหลาย ๆ เรื่องในชีวิตของผม

เหตุการณ์ที่ 5 : ตัดสินใจเลือกไปประเทศกัมพูชากับมิตรสหายท่านหนึ่ง

เรื่องราวของเหตุการณ์ :

แต่เดิม ผมได้รับการจัดสรรให้ไปฝึกงานที่เมืองเซี้ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน แต่มิตรสหายท่านหนึ่ง ประสบอุบัติเหตุแต่รอดมาได้ 

ผมเลยเลือกที่จะดูแลเพื่อน เพราะส่วนตัวผมมองว่าผมจะไปที่ไหนก็ได้ เพราะว่าไปทำงาน ไม่ได้ไปเที่ยว ไปก็ไป 3 เดือนเองครับ

ผลที่เกิดขึ้น :

ผมได้เจอผู้คนที่น่ารัก และเรื่องราวที่จำได้ไม่ลืมเลือน

ได้สังเกตการณ์การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในกัมพูชาเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งเปิดให้ลงคะแนนเมื่อ 7.00 น.- 15.00 น.

โดยการเลือกตั้งนั้น 5 ปี มี 1 ครั้ง

และ

เหตุการณ์ที่ 6 : ได้ไปชมงาน TED Talk เรื่องทุนนิยมสามานย์

ตอนนั้นผมยังทำงานอยู่ภาคเอกชน ผมได้มีโอกาสไปฟังบรรยายเรื่อง ทุนนิยมสามานย์ โดยคุณบรรยง พงษ์พานิช ณ งาน TEDxBangkok พ.ศ. 2559 ทำให้ผมประทับใจ และชอบคุณบรรยงฯ ขึ้นมา

วันเวลาผ่านไป ถึงปี พ.ศ. 2561 ผมก็ได้มาฝึกงานกับคุณบรรยงฯ แบบไม่คาดฝัน เมื่อได้มาฝึกงานด้วยคุณบรรยงฯ ก็สอนงานด้วยแนวคิดหัวก้าวหน้า และฝีปากที่เผ็ดร้อน ผมยอมรับว่าฟังครั้งแรกก็อุดมการณ์กลับมาทันที

ผลที่เกิดขึ้น :

ได้เรียนรู้ตัวตน และหลักการของคุณบรรยงฯ รวมถึงได้ติดตามในการฟังบรรยายตามรูปที่แนบมาครับ นับเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งในชีวิตของผม

ยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยบังเอิญ ที่กำลังเกิดขึ้นและกำลังรอให้เวลาเป็นเครื่องมือในการให้คำตอบครับ

แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกนะครับ แต่ถ้าอยากทราบเรื่องราวลึก ๆ รวมถึงบางเรื่องที่ผมเล่าออกสื่อไม่ได้ ให้มาถามกับตัวผมเองได้เลย

ผู้อ่านท่านใดเคยมีเรื่องที่คิดว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญบ้างไหมครับ ลองมาแชร์กันได้นะ